Wednesday 27 July 2016

อาลัยคุณพ่อเสรีรัต โคตะขุน

อาลัยคุณพ่อเสรีรัต โคตะขุน
 
 
 
 




















เพลง : กล่อมพ่อ

เหนื่อยล้า ... นานแล้ว
เธอใช้เวลาชีวิตที่ผ่านมานั้น
เพื่อฉันและคนมากมาย

ผ่านร้อน ... ผ่านหนาว
เธอสร้างมันตามความฝันจนเกิดวันนี้
เพราะรักและความจริงใจ

จากนี้ ... วันนี้
มันถึงเวลาที่ฉันจะกล่อมเธอนั้น
ให้พักให้นอนผ่อนคลาย

หลับตา ... หลับตา
มีเรื่องใดๆ เคยคิดและห่วงใยนั้น
ฉันขอให้ลืมมันไป

หลับฝัน ... พบเจอแต่สิ่งสวยงาม
นอนหลับอยู่บนปลายฟ้า
สายลมจะโชยพัดมา
... ให้นอนสบาย ...

ฝากฟ้าตรงนี้ ...
ให้ฟ้าดูแลเธอได้ทุกอย่างแทนฉัน
เมื่อฉันและเธอห่างไกล

หลับตา ... หลับตา
และใช้เวลาที่เหลือไปกับความฝัน
ที่แสนงดงามในใจ

หลับฝัน .. พบเจอแต่สิ่งสวยงาม
นอนหลับอยู่บนปลายฟ้า
สายลมจะโชยพัดมาให้นอนสบาย

ฝากฟ้าตรงนี้ ...
ให้ฟ้าดูแลเธอได้ทุกอย่างแทนฉัน
เมื่อฉันและเธอห่างไกล

หลับตา ... หลับตา
และใช้เวลาที่เหลือไปกับความฝัน
ที่แสนงดงามในใจ

ด้วยความฝันที่แสนงดงามในใจ

ด้วยความรัก
คิดถึงเหลือเกิน

... จากหัวใจ ...


Wednesday 6 July 2016

วิธีกำจัดเหา



วิธีกำจัดเหา



       





          เหา แค่ได้ยินชื่อก็ร้องยี้ เรามาทำความรู้จักกับเหา และวิธีกำจัดเหา เพื่อที่เราจะได้รับมือกับมันได้ยังไงล่ะ

          พูดถึงเจ้าแมลงตัวเล็ก ๆ ที่มักชอบอาศัยอยู่บนตัวคน และกินเลือดคนเป็นอาหาร แถมยังสร้างความรังเกียจให้แก่คนรอบข้าง ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าแมลงที่ชื่อว่า เหา ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงจะรู้จักมันดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะตอนเด็ก ๆ เรามักจะได้ยินคุณครูบอกว่าอย่าเข้าใกล้คนที่เป็นเหา บางคนอาจจะหนักหน่อยเพราะเคยถูกเจ้าหัวยึดครองพื้นที่บนหนังศีรษะ จนคุณพ่อคุณแม่ถึงกับต้องไปเสาะหาวิธีกำจัดเหาสารพัดวิธี กว่าจะหายก็ใช้เวลากันนานเลยเชียวล่ะ แถมบางคนจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าเหานี่มาจากไหน เป็นอย่างไร และก็ยังไม่รู้ว่าถ้าเกิดติดเหาแล้วจะกำจัดมันอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอนำทุกท่านไปรู้จักกับ เหา ปรสิตตัวแสบที่ชอบอพยพไปบนร่างกายของคนเรากันค่ะ และมาดูวิธีกำจัดเหาที่รับรองหายชะงัด เผื่อใครมีญาติพี่น้องหรือลูกหลานกำลังเจอเหาจู่โจมจะได้จัดการกับมันได้ทันก่อนที่จะกระจายไปสู่คนใกล้ตัวค่ะ




 เหาคืออะไร

          เหา หรือที่มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Pediculus humanus เป็นแมลงในกลุ่มปรสิต อาศัยอยู่บนร่างกายคนและดำรงชีวิตด้วยการกินขี้ไคลบนหนังศีรษะของคนเรา เหามีมากกว่า 3,000 ชนิด ซึ่งบางส่วนเป็นปรสิตที่อยู่ในสัตว์ แต่ที่เป็นชนิดที่อยู่ในคนนั้นมีเพียงแค่ 3 ชนิด ได้แก่ 

           เหาที่อยู่บนศีรษะ 
           เหาที่เกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 
           เหาที่บริเวณอวัยวะเพศ หรือ โลน

          โดยเหาแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิเช่น บนศีรษะ บนร่างกาย และบริเวณอวัยวะเพศ เหาสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ โดยการอยู่ใกล้ชิดและคลุกคลีกับผู้ที่เป็นโรคเหา จึงทำให้ผู้ที่เป็นโรคเหานั้นก็มักจะถูกสังคมรังเกียจ ซึ่งอาการที่มักจะพบได้จากคนที่เป็นเหาก็คืออาการคันและเป็นแผลติดเชื้อบนหนังศีรษะ อันเนื่องมาจากการระคายเคือง นอกจากนี้เหายังชอบวางไข่เอาไว้ตามเส้นผมของเราจนทำให้เห็นเป็นจุดขาว ๆ ตามเส้นผม แถมยังเกาะแน่นอีกด้วย โดยจะไม่หลุดไปถึงแม้ว่าจะหายเป็นเหาแล้วก็ตาม


 วงจรชีวิตของเหา

          ตลอดชีวิตแม่เหาหรือโลน 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ถึงเกือบ 300 ตัว โดยแต่ละชนิดมีอัตราการวางไข่ดังนี้ 

           เหาที่อยู่บนศีรษะ : 50 - 150 ฟอง
           เหาที่เกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย : 270 - 300 ฟอง
           โลน : 26 ฟอง

          โดยไข่เหาทุกชนิดจะมีสีขาวขุ่น และเกาะแน่นบริเวณโคนผมและขน มีระยะเวลาในการฟัก 7 - 10 วัน ตัวกลางวัยจะลอกคราบทั้งหมด 3 ครั้งและใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโต 7 -13 วัน ส่วนตัวเต็มวัยจะมีอายุ 2 - 4 สัปดาห์ หลังจากนี้จะมีผสมพันธุ์ และวางไข่ภายใน 1 - 2 วัน

 สาเหตุของการเกิดโรคเหา

          โรคเหาเกิดจากการไม่รักษาความสะอาดของร่างกาย เพราะเหานั้นชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่สกปรก โดยแต่ละชนิดมีปัจจัยในการเกิดแตกต่างกันได้แก่


           เหาที่ศีรษะ

          การติดเหาที่ศีรษะ เกิดขึ้นมาจากอาศัยอยู่ใกล้ชิดและคลุกคลีกับคนที่เป็นเหา รวมทั้งการใช้สิ่งของร่วมกัน อย่างเช่น หวี หมวก ผ้าเช็ดตัว ที่มัดผม และไดร์เป่าผม โดยมีการศึกษาพบว่าการหวีผมอาจส่งผลทำให้เหาออกไปได้ไกลถึง 1 เมตร ดังนั้นเราจึงมักพบเหาในเด็กเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเด็กมักอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าผู้ใหญ่และมักพบในเด็ก


           เหาที่ร่างกาย

          เหาที่เกิดขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เกิดจากการไม่รักษาความสะอาด และการอาศัยคลุกคลีกับคนที่มีเหา เหาบนร่างกายจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ค่อยอาบน้ำหรือไม่ได้เปลี่ยนและซักเสื้อผ้า ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นในกลุ่มคนที่ต้องเดินทางไกล ๆ เป็นเวลานานมาก ๆ นักโทษ หรือคนเร่ร่อนนั่นเอง โดยเหาประเภทนี้มักจะอาศัยอยู่บนเสื้อผ้าและจะคลานออกจากเสื้อผ้ามาดูดเลือดบนร่างกายคน เหาชนิดนี้มีตัวใหญ่กว่าเหาบนศีรษะเล็กน้อย

           เหาที่อวัยวะเพศ หรือโลน

          เหาที่บริเวณอวัยวะเพศ มักจะเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยส่วนใหญ่มักจะเหาชนิดนี้ในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ หรือแม้แต่ในเด็กก็สามารถพบได้ ถ้าหากเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นโลน บางครั้งก็อาจจะเกิดจากการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโลน นอกจากนี้เหาชนิดนี้ยังอาจอาศัยอยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงต่างๆ รวมทั้งหมูได้ หรือในทางกลับกัน โลนของสัตว์เลี้ยงต่างๆ และนก ก็อาจจะมาติดอยู่บนตัวคนได้เช่นกัน โลนมีลักษณะลำตัวแบนกว้าง และขาที่ตรงปลายมีตะขอใหญ่ ดูคล้ายปู ดังนั้นจึงอาจจะถูกเรียกเป็นชื่อภาษาอังกฤษว่า Crab ได้อีกด้วย โลนจะที่เกาะอยู่กับเส้นขนบริเวณอวัยวะเพศ และดูดกินเลือดบริเวณหัวหน่าวและขาหนีบ ขนาดของเหาจะกว้างประมาณ 0.8-1.2 มม. โดยเป็นเหาที่ไม่ค่อยเคลื่อนตัว หากอยู่นอกตัวคน เหาชนิดนี้จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 วัน



 อาการของเหา

          นอกจากอาการคันแล้ว เหาทั้ง 3 ชนิด ยังก่อให้เกิดตุ่มนูนแดงเล็ก ๆ โดยหากเป็นเหาที่อยู่บนศีรษะก็จะไปรบกวนการนอนหลับ แต่บางคนก็อาจจะไม่มีอาการอะไรเลย จะพบแค่เพียงรอยเกาบนศีรษะ ไข่เหา และตัวเหาเท่านั้น ซึ่งโดยปกติเหาบนศีรษะมักจะอยู่บริเวณหลังใบหู ส่วนเหาบนลำตัวนั้น อาจจะทำให้พบผื่นแบนเรียบเล็ก ๆ ที่ออกสีเทา-น้ำเงิน ซึ่งเป็นอาการที่น้ำลายจากเหาไปทำปฏิกิริยากับองค์ประกอบในเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดเปลี่ยนสีไป ส่วนโลนนั้นจะคล้ายคลึงกับสองชนิดข้างต้น แต่หากอาการรุนแรงก็อาจจะทำให้เกิดอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบและรักแร้โตได้


 ผลข้างเคียงจากโรคเหา อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม


          โรคเหาเป็นอาการที่ควรจะทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้อาการลุกลามและเรื้อรังจนยากต่อการรักษา เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายดังนี้


           เส้นผมพันกันกลายเป็นก้อน มีสะเก็ดหนอง และมีกลิ่นเหม็นรุนแรง


           บนผิวหนัง หากไม่ทำการรักษาอาจจะทำให้ผิวหนังหนาตัวและมีสีคล้ำขึ้น


           เกิดอาการอักเสบและเป็นฝีหนอง เนื่องมาจากการเกาจนผิวหนังถลอกและติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด


           เป็นพาหะของการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคไข้รากสาดใหญ่ โรคไข้เทรนซ์ และโรคไข้กลับ แต่เหาไม่สามารถแพร่เชื้อ HIV ได้



 วิธีกำจัดเหา


          วิธีการรักษาเหา จะต้องทำการรักษาผู้ที่เป็นเหาและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดควบคู่กันไป โดยต้องทำการควบคุมไม่ให้เหาแพร่กระจาย และป้องกันไม่ให้เกิดการติดเหาซ้ำค่ะ โดยเหาแต่ละชนิดมีวิธีการรักษาดังนี้


           เหาบนศีรษะ


           ใช้ยาฆ่าแมลงที่ทำพิเศษเพื่อฆ่าเหาบนศีรษะ เท่านั้น ซึ่งยาชนิดนี้มีทั้งในรูปครีม เจล หรือโลชั่น และห้ามซื้อยาฆ่าแมลงตามท้องตลาดมาใช้เอง โดยยาฆ่าเหาชนิดนี้มีวิธีใช้คือ สระผมให้สะอาดแล้วใส่ยาหมักไว้ 10 นาที แล้วล้างออก บางชนิดก็อาจต้องทิ้งไว้ข้ามคืน และควรใช้สัปดาห์ละครั้งเพื่อให้เหาที่ออกจากไข่ได้ถูกทำลาย และไม่เป็นอันตรายกับหนังศีรษะ


           การสางผม วิธีนี้นิยมใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะอายุน้อยเกินกว่าจะใช้ยาฆ่าเหาได้ ซึ่งหวีที่ใช้สางผมจะต้องเป็นหวีที่มีซี่หวีถี่ ๆ กว่าหวีทั่วไป หรือที่เรียกว่า "หวีเสนียด" โดยก่อนจะสางผมต้องทำให้ผมเปียกและลื่นก่อน โดยใช้ ครีมนวดผม น้ำมันมะกอก และบางคนเชื่อก็เชือว่าต้องใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งไม่เหมาะอย่างยิ่งเพราะน้ำมันเบนซินอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกับหนังศีรษะได้


           ยากินฆ่าเหา บางรายที่มีอาการเหาที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อรับยารับประทานรักษาอาการเหา ซึ่งยาชนิดนี้จะต้องได้รับการสั่งจากแพทย์เท่านั้น


           หากใช้วิธีรักษาใด ๆ แล้วรักษาไม่หาย ก็ควรโกนผมเพื่อเป็นการกำจัดต้นตอของเหา แต่ควรจะใช้เป็นวิธีสุดท้ายค่ะ


           เหาบนร่างกาย



          ในผู้ที่เป็นเหาบนร่างกาย ไม่จำเป็นต้องกินยา หรือใช้วิธีรักษาเดียวกับเหาบนศีรษะ เพราะเหาชนิดนี้มักจะอาศัยอยู่บนเสื้อผ้า โดยหากพบอาการเหาบนร่างกายควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว โดยถ้าหากไม่ต้องการทิ้งเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน และผ้าเช็ดตัว ของเดิมที่มีเหาอาศัยอยู่ ก็จำเป็นจะต้องนำไปซักและแช่ในน้ำร้อนที่อุณหภูมิมาก กว่า 55 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 5 นาที ขึ้นไป ซึ่งวิธีนี้ทำให้ทั้งตัวเหา และไข่เหาตายได้ แต่ถ้ายังไม่หายก็ควรรับประทานยากินควบคู่ไปกับการรักษาความสะอาดของร่างกายให้มากกว่าปกติค่ะ


           โลน



          โลนเป็นเหาที่ขึ้นตามอวัยวะเพศ แต่ถ้าหากอาการรุนแรงก็อาจทำให้เหาขึ้นตามบริเวณคิ้วหรือขนตาได้ โดยหากมีโลนขึ้นบริเวณดังกล่าวละก็ ห้ามใช้ยาฆ่าเหาชนิดเดียวกับที่ใช้กับศีรษะเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับดวงตาได้ วิธีรักษาคือการใช้สารเคมีที่มีความหนืดเพื่อไปขัดขวางการหายใจของตัวเหา โดยอาจใช้เจลปิโตรเลียมหรือ น้ำมันมะกอก นอกจากนี้ยังมียาสำเร็จรูปสำหรับรักษาอาการโลน อย่างเช่น Benzyl alcohol lotion โดยใช้ซ้ำทุก ๆ 7 -10 วัน เนื่องจากยาชนิดนี้ไม่สามารถกำจัดไข่ของโลนได้ นอกจากนี้ยังควรหมั่นโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ขนรักแร้และหน้าท้องออก เพื่อเป็นการกำจัดแหล่งที่อยู่ของโลนได้ค่ะ



 เหา กำจัดได้ด้วยสมุนไพรใกล้ตัว

           สูตรที่ 1

           ใช้น้ำส้มสายชูชะโลมศีรษะ เอาผ้าโพกหัวสักครึ่งชั่วโมงแล้
           สระผมให้เสร็จแล้วสางผมเพื่อเอาตัวเหาและไข่เหาออกไป ทำซ้ำทุก 2 สัปดาห์ เพราะน้ำส้มสายชูทำให้ไข่เหาร่วงหลุดไปได้ แต่ควรใช้น้ำส้มสายชูแท้เท่านั้

           สูตรที่ 2

           เอาผลมะกรูดที่แก่จัดไปเผาไฟหรือย่างไฟให้สุก ทิ้งไว้ให้เย็น 
           นำมาคลึงให้มีน้ำมาก ๆ แล้วผ่าครึ่ง บีบน้ำลงบนหัวขยี้ให้ทั่ว 
           ใช้หวีถี่ ๆ สางเส้นผม จะมีไข่เหาติดออกมา ทำอาทิตย์ละครั้ง ติดต่อกัน 3 ครั้ง

          สูตรที่ 3 

           นำใบน้อยหน่ามา 5-8 ใบ โขลกให้ละเอียด ผสมน้ำและทาผมให้ทั่ว เอาผ้าคลุมไว้สักครึ่งชั่วโมง 
           ล้างน้ำออก สระผมด้วยยาสระผมอีกครั้ง แล้วสางผมเพื่อเอาตัวเหาและไข่เหาออก
           หลีกเลี่ยงอย่าให้น้ำน้อยหน่าเข้าตา เพราะจะทำให้แสบตามาก

           สูตรที่ 4 

           นำใบสะเดาแก่ ๆ สัก 2-3 กำมือ โขลกให้ละเอียด ผสมน้ำพอเหลวนิดหน่อย 
           ทาผมให้ทั่วปล่อยให้แห้ง แล้วค่อยสระผมด้วยแชมพู
 
           สูตรที่ 5 

           เอาลูกบวบขมแกะเปลือกออก เอาน้ำในลูกบวบขมทาผมให้ทั่ว ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที

           สูตรที่ 6 

           ใช้ผลมะตูมสุกมาผ่า เอายางจากผลมะตูมสุกทาผม แล้วหวีให้ทั่ว 
           ปล่อยไว้ให้แห้ง เหาจะตายหมดแล้ว ล้างน้ำ ต่อจากนั้นจึงหวีออก 
           

 วิธีการป้องกันเหา และโลน

          การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีป้องกันเหาที่ดีที่สุด และไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เพราะเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายติดเหาหรือไม่ และถ้าหากต้องนำของใช้ที่ผู้เป็นเหาหรือโลนใช้ มาใช้ต่อก็ควรนำไปซักและแช่น้ำอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาน 5 นาทีขึ้นไป นอกจากนี้ถ้าหากมีใกล้ตัวติดเหาหรือโลน ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปคลุกคลีด้วยจนกว่าจะรักษาหายเพื่อที่จะได้ไม่ติดเหาหรือโลนมาค่ะ

 เหา ทำให้ติดเชื้อ HIV ได้หรือไม่ ?



          มีหลายคนเชื่อว่าการติดเหาอาจนำมาสู่การติดเชื้อ HIV ได้ โดยถ้าหากเลือดที่อยู่ในตัวเหาหรือโลนนั้นมีเชื้อ HIV อยู่ ก็อาจจะทำให้คนที่มีเหาหรือโลนเหล่านั้นมาอาศัยอยู่บนร่างกายได้รับเชื้อได้ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นความเชื้อที่ผิดค่ะ เพราะว่ามีการยืนยันจาก Rick Sowadsky M.S.P.H ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จากโปรแกรมเอดส์แห่งกองสุขภาพแห่งรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่าโดยปกติแล้วเชื้อ HIV ไม่สามารถอยู่นอกร่างกายมนุษย์ได้ และที่สำคัญ เชื้อ HIV ก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ในแมลงได้ค่ะ ดังนั้นวางใจได้เลย ถึงแม้จะติดเหาหรือโลนก็ไม่มีทางติดเชื้อ HIV อย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ในกรณีที่ผู้ที่ติดโลนมานั้นมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ HIV แบบนั้นมีความเสี่ยงแน่นอนค่ะ


          เหา ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เพียงปรสิตตัวเล็ก ๆ แต่มันก็สามารถจู่โจมเราได้หากเราไม่รักษาความและดูแลสุขอนามัยของตัวเองให้ดี และแน่นอนว่าถ้ามันจู่โจมเราแล้ว หากเรารับมือกับมันไม่ได้ ปัญหาที่เราจะต้องเผชิญก็จะไม่ใช่แค่เพียงเจ้าพวกตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ แต่จะเป็นชีวิตทางสังคมของเราอีกด้วย ดังนั้นถ้าเราไม่อยากถูกสังคมรังเกียจและไม่อยากจะมานั่งคันทั้งวี่ทั้งวันล่ะก็ อาบน้ำและหมั่นสระผมบ่อย ๆ นะ จะได้ไม่ต้องเจอเจ้าเหาและโลนไงล่ะ


         





ขอขอบคุณข้อมูลจาก